การใช้รถยนต์อย่างไรให้ถูกต้องตามหลักภาษีอากร จาก one2one car รับซื้อรถยนต์บริษัท

ไขข้อข้องใจ ภาษีของรถแต่ละประเภทนั้นมีรายละเอียดอย่างไร จาก one2one car รับซื้อรถยนต์บริษัท

รับซื้อรถยนต์บริษัท

 

การรับซื้อรถยนต์บริษัท หรือ รับซื้อรถมือสองเพื่อใช้ในบริษัท นั้นอาจจะเป็นเรื่องปวดหัวของใครหลายๆคนเนื่องจากหากเป็นรูปแบบบริษัทการคิดตามหลักภาษีอากรที่จะนำมาหักนั้นอาจจะเป็นเรื่องยุ่งยากที่เจ้าของกิจการต้องนำมาศึกษา เพื่อเป็นการยื่นภาษีให้ถูกต้องเนื่องจากการใช้รถสามารถนำมาเป็นส่วนของค่าใช้จ่ายได้ และ ค่าใช้จ่ายแบบไหนเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้บ้าง แล้ว ภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น เราสามารถเคลมได้ทั้งหมดไหม มีเงื่อนไขอะไรที่ต้องระมัดระวัง วันนี้เราจะมาจะชวนทุกคนมาเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน

ประเภทของรถยนต์ตามหลักภาษีอากร

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ภาษีอากรกันก่อนเนื่องจากกรมสรรพากรได้กำหนดภาษีรถยนต์ออกเป็นกี่รูปแบบแล้วรถแต่ละประเภทใช้หลักภาษีอย่างไร แต่ละรูปแบบนั้นมีข้อแตกต่างกันเนื่องจากเมื่อกิจการซื้อรถยนต์นั่ง หรือ รถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน หรือ รถต้องห้าม เข้ามาใช้ในกิจการ เช่น รถเก๋ง รถแวน รถอเนกประสงค์ (SUV) ถ้าเป็นรถยนต์นั่ง หรือ รถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ต้องมีภาระภาษี เพราะส่วนมากแล้วทุกคนคงคุ้นเคยกันว่าตาม ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 42) ข้อ 2 (1) ที่ไม่ให้นำมาหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้กล่าวไว้ว่า “ภาษีที่เกิดจากการซื้อ เช่า หรือวิธีการใดๆก็ตาม รับโอนรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นรถนั่ง มือหนึ่ง หรือ มือสอง และ รถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต และ ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อสินค้า หรือการรับบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์นั่ง และ รถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต” ดังนั้นเราจึงแยกประเภทของการซื้อรถออกได้เป็นทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่


1.รถยนต์ส่วนตัว 

หากเป็นการรับซื้อรถยนต์มาเพื่อใช้ส่วนตัวไม่จำเป็นจะต้องคำนึงถึงการคำนวณภาษีแต่ต้องโฟกัสที่ว่า ใช้เพื่อกิจการ หรือ เปล่า หากเป็นการใช้เพื่อกิจการ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องจะเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการได้ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (3) (13) แห่งประมวลรัษฎากร นั้นเอง

2.รถมอเตอร์ไซค์

หากเป็นการใช้รถมอเตอร์ไซค์ในกิจการ แน่นอนว่าบริษัทต้องมีชื่อเป็นเจ้าของรถด้วยนะ แบบนี้จึงจะถือว่าเป็นการใช้รถมอเตอร์ไซค์ ของกิจการ ใช้เพื่อกิจการเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการได้

3.รถยนต์ที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 ที่

ปัจจุบันกรมสรรพสามิต ได้มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตตอนที่ 6 สินค้ารถยนต์ สำหรับรถยนต์กระบะ 4 ประตู(Double Cab)เนื่องจากรถประเภทนี้ส่วนใหญ่สามารถใช้ประโยชน์ในกิจการได้ ตามหลักเกณฑ์เนื่องจาก มองว่าเป็นการซื้อมาใช้ในกิจการ เพื่อบริหารภาษี ซึ่งมีที่นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่ง ภาษาชาวบ้านก็คือรถเก๋ง รถ SUV  เงื่อนไขและคุณลักษณะที่อธิบดีกรมสรรพสามิตประกาศกำหนดจากพิกัด 06.01 ว่าด้วย "รถยนต์นั่ง" เป็นพิกัด 06.03 ว่าด้วย "รถยนต์กระบะที่ออกแบบสำหรับให้มีน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 4,000 กิโลกรัม และความจุกระบอกสูบไม่เกิน3,250 ลบ.ซม." เป็นผลทำให้รถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขและคุณลักษณะที่อธิบดีกรมสรรพสามิตประกาศกำหนดพ้นจากการเป็นรถยนต์นั่ง ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2560 เป็นต้นไปเนื่องจาก หากเป็นรถของผู้บริหารที่ซื้อรถหรู มูลค่าหลาย 10 ล้านบาท เพื่อมาใช้ในกิจการ แต่สรรพากรมองว่ารถมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท ก็ใช้เดินทางได้เหมือนกัน ดังนั้นรถมูลค่าเกิน 1 ล้านบาท จึงเกินความจำเป็น และ รถเก๋งก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจโดยตรงเหมือนรถกระบะ รถตู้ และ รถบรรทุกนั้นเอง

4.รถยนต์ที่มีที่นั่งเกิน 10 ที่

หาเป็นรถยนต์ที่มีที่นั่งเกิน 10 คนนั้นต้องบอกว่ารายการนี้มีรายละเอียดที่หลากหลาย ซึ่งในพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตนั้น หมวด 06 จะเป็นพิกัดของสินค้ารถยนต์ แต่อย่างที่บอกไปว่า สรรพากรจะเน้น 06.01 และ 06.02 เป็นหลัก เพราะมองว่า รถกระบะ รถตู้ และรถบรรทุกมีไว้ใช้เพื่อการประกอบกิจการโดยตรง

โดยจะเห็นว่าจากเกณฑ์ภาษีทั้งหมดมีการเปลี่ยนแปลงพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับรถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข และ คุณลักษณะที่อธิบดีกรมสรรพสามิตประกาศกำหนดตามข้อ 2 ของประกาศกรมสรรพสามิต เรื่องหลักเกณฑ์เงื่อนไข และ คุณลักษณะของรถยนต์กระบะสี่ประตู (Double Cab) ลงวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2562 จากพิกัดอัตรา 06.01 "รถยนต์นั่ง" เป็นพิกัด 06.03 "รถยนต์กระบะที่ออกแบบสำหรับให้มีน้ำหนักรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 4,000 กิโลกรัม" ส่งผลกระทบต่อการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลทั้งส่วนของค่าสึกหรอ ท้ายที่สุด ไม่ว่าจะรถมีมูลค่าเท่าไหร่ค่าเสื่อมราคา และ มูลค่าต้นทุนรถยนต์ในส่วนที่เกินกว่า 1,000,000 และ การนำภาษีซื้อเกี่ยวกับรถยนต์ดังกล่าวมาเครดิตหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม นับแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2560 เป็นต้นมา

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นว่าภาษีที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถนั้นค่อนข้างซับซ้อนเหลือเกิน แต่ถ้าเราเช็คประเภทรถ แล้วทำตามขั้นตอนโดยสรุปนี้ และ การรับซื้อรถบริษัท รับซื้อรถมือสอง หรือ ขายรถประเภทนี้จะสามารถทำได้โดยง่ายไม่ยุ่งยากหากเรารู้ถึงข้อมูลทางด้านภาษีในการจัดการดังนั้นหากต้องการหาผู้เชี่ยวชาญ หรือ รถที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญมาเป็นอย่างดีเราขอแนะนำ one2one car  ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมรถมือสองที่ผ่านการคัดกรองมาอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งหากต้องการขายรถยนต์มือสอง เราสามารถรับซื้อรถยนต์มือสองของท่านได้อย่างรวดเร็วมีบริการช่างเข้าไปตรวจเช็คสภาพรถถึงหน้างานอีกทั้งหากตกลงได้สามารถจ่ายเงินได้ทันที นั้นเอง จึงสามารถขาย และ รับซื้อรถยนต์มือสองกับเราได้โดยตรงจึงมั่นใจว่าเรามีรถคุณภาพดีให้ท่านเลือกที่ผ่านการตรวจสอบทั้งคุณภาพมาแล้ว ไม่กรอไมล์ ไม่จมน้ำ และ สามารถเช็คประวัติรถว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติได้  อีกทั้งยังไม่มีการชนหนัก เราพร้อมให้คำปรึกษา อีกทั้งยังมีบริการจัดการเรื่องเอกสาร ไฟแนนซ์ ให้แก่ลูกค้าทั้งหมด จึงวางใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับความสะดวกสบายสูงสุดนั้นเอง

 

สามารถติดต่อ one2one - car ศูนย์รับซื้อรถมือสอง รับซื้อรถบริษัท รับซื้อรถติดไฟแนนซ์ รับซื้อรถถึงบ้าน ดูรถถึงที่ฟรี 24 ชั่วโมง
สามารถให้คำปรึกษาแก่คุณได้ เพื่อความสะดวกและความสบายใจของตัวคุณเอง

Tel: 087-508-1444 | Email : one2onecar@gmail.com